กำหนดให้ #my_checkbox คือ id ของ input checkbox ที่ต้องการตรวจสอบ $('#my_checkbox').change(function() { if (this.checked) { alert('Checked'); } else { alert('Not Checked'); } }); ใช้การตรวจสอบด้วยอีเว้นต์ change แล้วตรวจสอบ this.checked ว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ นอกจากนี้เรายังสามารถเขียนเป็นฟังก์ชั่นได้อีกด้วย function isChecked(elem){ if (elem.checked) { return true; } else { return false; } } $(document).on('change', '#my_checkbox', function(){ if(isChecked(this) == true){ alert('Checked'); }else{ alert('Not Checked'); } }); ตัวอย่างการเอามาใช้งาน เพื่อซ่อนแสดงคอลัมน์ที่ต้องการ แสดงคอลัมน์ Authen SESSION ซ่อนเมื่อ uncheck ออกไป function setDisplayAuthen(elem){ if (elem.checked) { $('.col_authen').show(); } else { $('.col_authen').hide(); $('.col_authen input').val(''); } } $(docume
สำหรับตัวอย่างนี้จะเป็นการ JOIN ตาราง 2 ตาราง 1. tb_reject_hd 2. tb_reject_desc ซึ่งจะเชื่อมกันด้วยฟิลด์ docno จะเห็นว่าเราสามารถคิวรี่เรียกข้อมูลออกมาได้ตอนที่ยังไม่ใส่ ORDER BY แต่เมื่อใส่ ORDER BY เข้าไป จะหมุนค้างจนหน้าเว็บหยุดทำงาน จากนั้นก็ลองเพิ่ม INDEX ให้กับฟิลด์ docno ในตาราง tb_reject_desc ซึ่งในตัวอย่างนี้จะสร้างตารางใหม่ขึ้นมาจากตารางเดิม เปลี่ยนชื่อเป็น tb_reject_desc_with_index และทำการเพิ่ม INDEX KEY เข้าไป เมื่อทดสอบคิวรี่แบบมี ORDER BY จะเห็นว่าสามารถแสดงผลได้ทันที จากการสังเกตตัวเลขเวลาในการประมวลผล จะเห็นได้ว่าแบบไม่ใช้ ORDER BY จะทำงานเร็วกว่า แต่ในการทำงานส่วนใหญ่ก็มักจะต้องใช้ ORDER BY อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นกรณีค้นหา แบบเรียงลำดับ ตัวอย่างโค้ดคิวรี่ข้อมูลจากตารางที่ Add Index Key แล้ว <!DOCTYPE html> <html lang="en"> <head> <meta charset="UTF-8"> <title>Add Index Key</title> </head> <body> <h2>ORDER BY with INDE